เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2565 พลตรี คณิศร อาสมะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 มอบภารกิจให้พันโท สรารักษ์ ชูสกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสุริยพงษ์ นำชุดแพทย์เคลื่อนที่ ร่วมกับหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) สภากาชาดไทยจังหวัดน่าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในโครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน” ออกให้บริการทางการแพทย์ให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ประชาชนที่เข้าถึงทางการแพทย์ได้ยากลำบาก ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ณ ชุมชนบ้านป่าแพะ ตำบลแม่ขะนิ้ง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน
ตามเจตนารมณ์ของ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ให้หน่วยทหารเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส อีกทั้งระดมสรรพกำลังในการดูแล และช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติ ตลอดจนผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 เน้นย้ำให้หน่วยทหารในจังหวัดน่านพร้อมช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 และประชาชนในพื้นที่ห่างไกลที่เข้าถึงทางการแพทย์ได้ยากลำบาก เป็นที่พึ่งของประชาชนชาวจังหวัดน่าน
ในการนี้โรงพยาบาลค่ายสุริยพงษ์ ได้ดำเนินการให้บริการทางการแพทย์เบื้องต้น ณ จุดบริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โรงเรียนบ้านแม่ขะนิ้ง โดยมีการให้บริการทางการแพทย์เบื้องต้น ตรวจโรคทั่วไป บริการแพทย์แผนจีน ฝังเข็ม และแจกจ่ายยารักษาโรค โดยมีประชาชนมารับบริการกว่า 260 ราย ส่งต่อการรักษาไปยังโรงพยาบาลเวียงสา จำนวน 2 ราย และส่งต่อการรักษาไปยังโรงพยาบาลน่าน จำนวน 1 ราย
นอกจากนี้มีชุดแพทย์เดินเท้าเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยชรา ที่เข้าถึงการบริการทางการแพทย์ได้ยากลำบาก โดยเยี่ยมบ้านนายสิงห์แก้ว เชียงปาละ เป็นผู้ป่วยติดบ้าน มีโรคความดันสูง โรคหลอดเลือดสมองตีบ และโรคเกาต์ มีการให้บริการตรวจโรคเบื้องต้น และแนะนำการดูแลผู้ป่วยอย่างถูกวิธี และได้เยี่ยมบ้านนางสาวโสภา แซ่โพลง เป็นผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระดับ 4 โรคเบาหวาน และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง มีการให้บริการตรวจโรคเบื้องต้น และแนะนำการดูแลผู้ป่วยอย่างถูกวิธี และต่อมาได้เดินทางไปยังบ้านของนางบัว อุ่นเรือง มีโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โดยมีการให้บริการตรวจโรคเบื้องต้น แนะนำการพ่นยาอย่างถูกต้องให้กับญาติของผู้ป่วย อีกทั้งแนะนำให้เปลี่ยนเตาถ่านเป็นเตาแก๊ส ลดควันจากการประกอบอาหาร และเพื่อเป็นการลดการกระตุ้นของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอีกด้วย
ปฏิบัติภารกิจภายใต้เจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารบก “ปกป้องประชา” ในการดูแลประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ